“อ้วนลงพุง” เสี่ยง “หายใจติดขัด-หอบหืด”

“อ้วนลงพุง” เสี่ยง “หายใจติดขัด-หอบหืด” thaihealth

แฟ้มภาพ

                   บางทีการ “อ้วนลงพุง” นั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องขำๆ กันเสียแล้ว เพราะทางกรมการแพทย์โดยสถาบันโรคทรวงอก ได้เตือนผู้ที่มีภาวะไขมันส่วนเกินที่สะสมมากกว่าปกติ อาจทำให้มีระบบหายใจทำงานติดขัด และอาจจะก่อให้เกิดโรคหอบหืดตามมาได้
โดย      นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์     เปิดเผยว่า การรับประทานอาหารเกินความต้องการของร่างกายนั้นจะทำให้เกิดภาวะดังกล่าว ส่งผลให้มีพุงยื่นออกมาอย่างชัดเจน เรียกว่า โรคอ้วนลงพุง
                    อันตรายจากการอ้วนลงพุงนั้น อาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ ตามมา ได้แก่ ภาวะไขมันอุดตันหลอดเลือดและหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดแดงแข็ง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง, โรคความดันโลหิตสูง, ไตวาย, มะเร็ง, ภาวะหัวใจล้มเหลว และไขมันส่วนเกิน ทั้งนี้ ถ้ามีไขมันในร่างกายเยอะเกินไปจะสามารถเข้าไปสะสมในปอดจนเบียดทางเดินหายใจ ทำให้หลอดลมตีบลงจนเกิดอาการเหนื่อยง่ายและหายใจลำบากมากขึ้น เป็นสาเหตุให้เกิดโรคหอบหืดได้

โดยกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็น “อ้วนลงพุง” ได้ คือผู้ที่มีความเสี่ยงอย่างน้อย 3 ข้อ ดังนี้ คือ
1.ภาวะอ้วนลงพุง
2.น้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารสูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป
3.ความดันโลหิตสูง 130/85 มิลลิเมตรปรอทขึ้นไป
4.มีไขมันดี ชนิด DHL ต่ำ โดยเพศชายน้อยกว่า 40 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และเพศหญิงน้อยกว่า 50 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
5.ไขมันไตรกลีเซอไรต์สูงกว่า 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร
ถ้ามีร่างกายในลักษณะดังกล่าวจะต้องมีการรักษาและป้องกันโรคอ้วนลงพุง เพื่อห่างไกลโรคร้ายแทรกซ้อนที่จะตามมาอย่างทันท่วงที
วิธีลดความเสี่ยงอาการหายใจติดขัดหรือโรคหอบหืด
1. คุมอาหารและลดน้ำหนักในรายที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วน
2.ออกกำลังกายอย่างน้อย วันละ 30 นาทีต่อวัน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 วัน
3.ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการบริโภคอาหารไม่ให้มีปริมาณมากเกินไป
4.หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด มัน และกะทิ
5.ดื่มน้ำเปล่า หลีกเลี่ยงน้ำหวาน และน้ำอัดลม

Cr. thaihealth.or.th